Wednesday, November 30, 2011
Tuesday, November 15, 2011
3 App Keyboard ภาษาไทยบน Android
สำหรับผู้ใช้ Android หลายๆ คนคงคุ้นเคย Keyboard บน Android ภาษาไทย หลายๆ ตัวกันแล้วที่พัฒนาด้วยฝีมือคนไทย สำหรับผมก็ใช้งานมาตั้งนานแล้ว ไม่เคยพูดถึงเลย มีแต่แนะนำ app อื่นๆ วันนี้จึงอยากเก็บบันทึกไว้สักหน่อย เอาว่าไปดู Keyboard ที่ผมใช้งานกันเลยครับ
ตัวแรก นี่เลย Keyboard ManMan ที่พัฒนาโดย K.Natt Piyapramote เป็นตัวที่ผมชอบและใช้งานอยู่ในปัจจุบันครับ ทำให้เราพิมพ์ได้แม่นยำขึ้น ด้วยภาษาไทยที่คำนวณคำ และสร้างปุ่มกดต่อไปให้ใหญ่ขึ้น ตัวอย่างตามภาพล่างนี้ครับ
App ตัวต่อไปคือ TSwipe-Pro keyboard สำหรับตัวนี้ฟังชั่นการใช้งานเยอะครับ ปรับแต่งได้ตามความต้องการครับ
ไม่ว่าจะเป็นสีสรร ธีม ขนาด font App นี้พัฒนาโดย K.Krich Charoenpoldee ครับ และ App อีกหลายๆ ตัวที่พัฒนาออกมาเรื่อยๆ ครับ สำหรับแต่ละรุ่น ลองไปติดตามดูที่นี่เลยครับ>>https://market.android.com/developer
และถ้าผู้ที่ชื่นชอบสีสรร หน้าตาแบบ Android เดิมๆ แต่มีเสริมภาษาไทยเข้ามาต้องนี่เลยครับ Droidsans Thai Keyboard ผู้พัฒนาคือเว็บ DroidSans.com เป็นเว็บข่าวสาร Android ที่ผมเข้าไปอ่านเป็นประจำ ตั้งแต่ซื้อ Android มาใช้ครับ
สำหรับผมที่ติดตั้งใช้งานอยู่ปัจจุบันก็ 3 Apps นี้ล่ะครับ ต้องบอกก่อนครับสำหรับมือถือ Android นั้นเรื่องของภาษาไทยนั้นยี่ห้อต่างๆ ที่นำมาขายในประำเทศไทยล้วนมีอยู่ในเครื่องตอนซื้อแล้วครับ อย่างของผมของมีแป้นพิมพ์ของ LG ให้มาแล้วครับ สำหรับผมไม่ถนัดครับ เลยต้องหา Keyboard ภาษาไทยสมจริงมาใช้งานเพิ่มเติมครับ
ตัวแรก นี่เลย Keyboard ManMan ที่พัฒนาโดย K.Natt Piyapramote เป็นตัวที่ผมชอบและใช้งานอยู่ในปัจจุบันครับ ทำให้เราพิมพ์ได้แม่นยำขึ้น ด้วยภาษาไทยที่คำนวณคำ และสร้างปุ่มกดต่อไปให้ใหญ่ขึ้น ตัวอย่างตามภาพล่างนี้ครับ
App ตัวต่อไปคือ TSwipe-Pro keyboard สำหรับตัวนี้ฟังชั่นการใช้งานเยอะครับ ปรับแต่งได้ตามความต้องการครับ
ไม่ว่าจะเป็นสีสรร ธีม ขนาด font App นี้พัฒนาโดย K.Krich Charoenpoldee ครับ และ App อีกหลายๆ ตัวที่พัฒนาออกมาเรื่อยๆ ครับ สำหรับแต่ละรุ่น ลองไปติดตามดูที่นี่เลยครับ>>https://market.android.com/developer
และถ้าผู้ที่ชื่นชอบสีสรร หน้าตาแบบ Android เดิมๆ แต่มีเสริมภาษาไทยเข้ามาต้องนี่เลยครับ Droidsans Thai Keyboard ผู้พัฒนาคือเว็บ DroidSans.com เป็นเว็บข่าวสาร Android ที่ผมเข้าไปอ่านเป็นประจำ ตั้งแต่ซื้อ Android มาใช้ครับ
สำหรับผมที่ติดตั้งใช้งานอยู่ปัจจุบันก็ 3 Apps นี้ล่ะครับ ต้องบอกก่อนครับสำหรับมือถือ Android นั้นเรื่องของภาษาไทยนั้นยี่ห้อต่างๆ ที่นำมาขายในประำเทศไทยล้วนมีอยู่ในเครื่องตอนซื้อแล้วครับ อย่างของผมของมีแป้นพิมพ์ของ LG ให้มาแล้วครับ สำหรับผมไม่ถนัดครับ เลยต้องหา Keyboard ภาษาไทยสมจริงมาใช้งานเพิ่มเติมครับ
วิธีการลงภาษาไทยและ Font ไทยลง iROBOT android
วิธีการลงภาษาไทยและ Font ไทยลง iROBOT android
แนะนำวิธีการลง แนะนำลง program ต่อไปนี้ใน Micro SD ก่อน
1.Thai Font
2.โปรแกรม List รายการ โปรแกรม Android (android-sdk_r06-windows.zip)
3.โปรแกรม Root (Root.Explorer.v2.7.apk)
4.โปรแกรม Thai keyborad (SimpleThaiKey.apk)
หลังจากนั้นทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ครับ
1.เปิดโปรแกรม File Browser
2.เปิดไฟล์ ใน SD การ์ด
3.ลงโปรแกรม Root Explorer
4. Install มันซะ
5. open โปรแกรม
6.เปิดแล้วหาหมวด sdcard ตามรูป
7.แล้วเข้าไปหาไฟล์ Font ที่เราเก็บไว้ใน Mem (ไฟล์ .TTF มี 6 ไฟล์)
8.กดไฟล์ที่ต้องการค้างไว้ แล้วเลือก Copy (แนะนำให้ copy ที่ละไฟล์นะ)
9.ออกไปหน้าที่เรากดรอบแรกตอนเข้ามาตามภาพ เข้าไปที่ /system/fonts
10. กด paste วาง font ที่ copy มาวางที่นี่ เครื่องจะถามว่าวางทับใช่ไหม ก็เลือก OK ครับ
หลังจากนั้นก็กลับไปทำตามข้อ 7 อีกครั้ง Copy ตัวที่ 2, 3, 4, 5 และ 6 ตามลำดับ แล้วนำมาวางที่ระบุจนครบครับ
หลังจากนั้นก็ลง คีย์บอร์ทไทยต่อ
1.เปิดโปรแกรม root อีกครั้งไปหาโปรแกรม SimpleThaiKey.apk
2.กดที่โปรแกรม แล้ว install
3. เลือก Settings
4.เลือก Locale & text จะเข้ามาตามรูปแล้วเลือก Thai Keyboard ให้มีเครื่องหมายถูก
5.เลือกเข้าไปที่ Select Locale แล้วเลือกไทยครับ
เมื่อครบตามขั้นตอนที่ระบุก็ ปิดเครื่อง แล้วเปิดใหม่ พอดีหา reset ไม่เจอแล้วแนะนำวิธีนี้ครับ
วิธีการเช็คว่าฟอนท์ไทยใช้ได้ไหม
กด internet ที่เป็นรูปโลกด้านล่างดู(แบบไม่ต่อเน็ท)
ก็จะขึ้นฟอนท์ไทยตามรูป
หลังจากนั้นเราก็ Input keyboard ไทยต่อเลยครับ
กดตรงแท็บ www. ค้างไว้ครับ แล้วเลือก Input Method
แล้วเลือก Thai Keyboard
แล้วลองกดตรงแป้นพิมพ์ en/th แล้วจะเปลี่ยนเป็น ภาษาไทยได้แล้ว กดโหลดเป็นไฟล์ word ได้ที่นี่ครับ แบบละเอียด
ขอบคุณที่ติดตามการลงภาษาไทย My iROBOT นะครับ
ปล.ผมยังมือใหม่อยู่ครับ ถ้าเพื่อนๆ มีวิธีดีๆ ก็แนะนำกันได้นะครับ
2.เปิดไฟล์ ใน SD การ์ด
3.ลงโปรแกรม Root Explorer
4. Install มันซะ
5. open โปรแกรม
6.เปิดแล้วหาหมวด sdcard ตามรูป
7.แล้วเข้าไปหาไฟล์ Font ที่เราเก็บไว้ใน Mem (ไฟล์ .TTF มี 6 ไฟล์)
8.กดไฟล์ที่ต้องการค้างไว้ แล้วเลือก Copy (แนะนำให้ copy ที่ละไฟล์นะ)
9.ออกไปหน้าที่เรากดรอบแรกตอนเข้ามาตามภาพ เข้าไปที่ /system/fonts
10. กด paste วาง font ที่ copy มาวางที่นี่ เครื่องจะถามว่าวางทับใช่ไหม ก็เลือก OK ครับ
หลังจากนั้นก็กลับไปทำตามข้อ 7 อีกครั้ง Copy ตัวที่ 2, 3, 4, 5 และ 6 ตามลำดับ แล้วนำมาวางที่ระบุจนครบครับ
หลังจากนั้นก็ลง คีย์บอร์ทไทยต่อ
1.เปิดโปรแกรม root อีกครั้งไปหาโปรแกรม SimpleThaiKey.apk
2.กดที่โปรแกรม แล้ว install
3. เลือก Settings
4.เลือก Locale & text จะเข้ามาตามรูปแล้วเลือก Thai Keyboard ให้มีเครื่องหมายถูก
5.เลือกเข้าไปที่ Select Locale แล้วเลือกไทยครับ
เมื่อครบตามขั้นตอนที่ระบุก็ ปิดเครื่อง แล้วเปิดใหม่ พอดีหา reset ไม่เจอแล้วแนะนำวิธีนี้ครับ
วิธีการเช็คว่าฟอนท์ไทยใช้ได้ไหม
กด internet ที่เป็นรูปโลกด้านล่างดู(แบบไม่ต่อเน็ท)
ก็จะขึ้นฟอนท์ไทยตามรูป
หลังจากนั้นเราก็ Input keyboard ไทยต่อเลยครับ
กดตรงแท็บ www. ค้างไว้ครับ แล้วเลือก Input Method
แล้วเลือก Thai Keyboard
แล้วลองกดตรงแป้นพิมพ์ en/th แล้วจะเปลี่ยนเป็น ภาษาไทยได้แล้ว กดโหลดเป็นไฟล์ word ได้ที่นี่ครับ แบบละเอียด
ขอบคุณที่ติดตามการลงภาษาไทย My iROBOT นะครับ
ปล.ผมยังมือใหม่อยู่ครับ ถ้าเพื่อนๆ มีวิธีดีๆ ก็แนะนำกันได้นะครับ
มาทำ ROM ภาษาไทยกันเหอะ
ทำไมต้องทำ ROM ภาษาไทย
เนื่องจาก MID android tablet ปัจจุบัน จะทำการปิดสิทธิ์การ Root ค่อนข้างเยอะ แล้วทุกคนก็จะถามว่าจะทำอย่างไรจะลงไทยได้ อันนี้ก็ตอบยาก เพราะทางเราก็จนปัญญาเช่นเดียวกัน ก็พยายาม โหลด ROM slatedroid มาทำเองจนงงไปหมดแล้วว่าอันไหนเป็นอัน (ที่จริงมันมีวิธีเขียน Scipt ขอใช้สิทธิ์แก้ผ่าน Micro SD ก็มีนะครับโดยไม่ต้อง Flash ROM ต้องรอไปก่อนนะครับเพราะกำลังศึกษาอยู่ได้เมื่อไรจะมาลงทันที)
รุ่นที่ทำการทำ ROM ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกตระกูล Eken, VIA (GOME, M001-M006, LY-706 และอื่นๆ อีกเยอะ)
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนทำ ROM
1.โปรแกรม 7-Zip
วิธีการทำ ROM ภาษาไทยนั้นง่ายแสนง่าย
1.เพียงโหลด ROM ที่เราต้องการมา(หาได้ใน www.slatdroid.com)
2.แตกไฟล์ ที่เป็น .zip หรือ .rar ออกมาจะได้ Scipt Folder
3.เข้าไปเลือก ไฟล์ android_fs.tar คลิกขวา เปิดโปรแกรมด้วย 7-zip (ไม่มีก็ไปหาโหลดเอา) ตามภาพ
4.เมื่อเปิด 7-zip เลือกเข้าไปที่ system/fonts
5.ลากไฟล์ Thai font ตัวเขียวๆ ทั้งหมด เหมือนในภาพ มาวางทับก็เป็นการเสร็จ ตอบ Yes
6.เมื่อทำ Font เสร็จแล้วก็ลง คีย์บอร์ทกัน ก็ เข้าไปที่ system/app
7.ลากไฟล์ SimpleThaiKey.apk มาลงที่ Folder นี้ มาวางทับก็เป็นการเสร็จ ตอบ Yes
8.เสร็จแล้วก็ปิดโปรแกรม แล้วเอา Scipt Folder มาใส่ Micro SD แล้วก็เอาใส่เครื่อง Android Tablet แล้วก็ Flash ROM ครับ
ปล.ทำกันเป็นแล้วมาแบ่งกันลองใช้กันบ้าง พวก app .apk ที่เราต้องการลงฝังเข้าระบบก็ใช้วิธีเดียวกับข้อ 7 นะครับ
วิธีการลงภาษาไทยแบบง่าย android tablet จีน
วิธีนี้ก็คล้ายๆ กับการ Flash rom ใหม่ครับ แต่เพียงเอา Script ที่เรามีไปใส่ไว้ใน Micro SD
ถ้าพร้อมแล้วเตรียมตัวทำพร้อมกันได้เลยครับ
2.แตกไฟล์ออกด้วย winrar แล้วนำไฟล์นี้ ไปลงใน Micro SD
3.แล้วนำไปใส่ใน android tablet จีนครับ
4.เปิดเครื่อง ให้ script รันข้อมูล ประมาณ 2 นาที ระบบจะให้นำ mem ออกครับ
5.หลังจากนั้นก็เปิดเครื่องอีกครั้ง แล้วทำตามขั้นตอนแบบเก่า....
1.Thai Font
2.โปรแกรม List รายการ โปรแกรม Android (android-sdk_r06-windows.zip)
3.โปรแกรม Root (Root.Explorer.v2.7.apk)
4.โปรแกรม Thai keyborad (SimpleThaiKey.apk)
หลังจากนั้นทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ครับ
1.เปิดโปรแกรม File Browser
2.เปิดไฟล์ ใน SD การ์ด
3.ลงโปรแกรม Root Explorer
4. Install มันซะ
5. open โปรแกรม
6.เปิดแล้วหาหมวด sdcard ตามรูป
7.แล้วเข้าไปหาไฟล์ Font ที่เราเก็บไว้ใน Mem (ไฟล์ .TTF มี 6 ไฟล์)
8.กดไฟล์ที่ต้องการค้างไว้ แล้วเลือก Copy (แนะนำให้ copy ที่ละไฟล์นะ)
9.ออกไปหน้าที่เรากดรอบแรกตอนเข้ามาตามภาพ เข้าไปที่ /system/fonts
10. กด paste วาง font ที่ copy มาวางที่นี่ เครื่องจะถามว่าวางทับใช่ไหม ก็เลือก OK ครับ
หลังจากนั้นก็กลับไปทำตามข้อ 7 อีกครั้ง Copy ตัวที่ 2, 3, 4, 5 และ 6 ตามลำดับ แล้วนำมาวางที่ระบุจนครบครับ
หลังจากนั้นก็ลง คีย์บอร์ทไทยต่อ
1.เปิดโปรแกรม root อีกครั้งไปหาโปรแกรม SimpleThaiKey.apk
2.กดที่โปรแกรม แล้ว install
3. เลือก Settings
4.เลือก Locale & text จะเข้ามาตามรูปแล้วเลือก Thai Keyboard ให้มีเครื่องหมายถูก
5.เลือกเข้าไปที่ Select Locale แล้วเลือกไทยครับ
เมื่อครบตามขั้นตอนที่ระบุก็ ปิดเครื่อง แล้วเปิดใหม่ พอดีหา reset ไม่เจอแล้วแนะนำวิธีนี้ครับ
วิธีการเช็คว่าฟอนท์ไทยใช้ได้ไหม
กด internet ที่เป็นรูปโลกด้านล่างดู(แบบไม่ต่อเน็ท)
ก็จะขึ้นฟอนท์ไทยตามรูป
หลังจากนั้นเราก็ Input keyboard ไทยต่อเลยครับ
กดตรงแท็บ www. ค้างไว้ครับ แล้วเลือก Input Method
แล้วเลือก Thai Keyboard
แล้วลองกดตรงแป้นพิมพ์ en/th แล้วจะเปลี่ยนเป็น ภาษาไทยได้แล้ว กดโหลดเป็นไฟล์word ได้ที่นี่ครับ แบบละเอียด
วิธีนี้ข้อดี คือ ไม่ต้องไปหา Flash ROM ที่ตรงรุ่น สามารถใช้ได้เฉพาะ CPU VIA และต้องเป็น Android 1.6 เท่านั้น
ปล.ถ้า ต้องการตัวโปรแกรมเปิดสิทธิ์ การ root ทางผมได้ใส่ Password เอาไว้ ถ้าสนใจทาง ผมขอคิดเงิน 100 บาท (โทรขอ Password ที่ 0865111865 เมื่อชำระเงินแล้ว แล้วเราจะส่ง SMS ไปให้ครับ)จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาคลองถม บางทีผมไม่ค่อยว่างที่จะทำให้ครับ ส่วน software rom รุ่นต่างๆ ผมจะทำแบบเดียวกัน แต่จะทำให้ตามสเปกเครื่องของท่านๆ เร็วขึ้นนะครับ
Password ปลดล็อค admin12345678 ครับ
Monday, November 14, 2011
Apple ปล่อย iOS 5.0.1 ออกมาแก้ปัญหาแบตหมดเร็วแล้ว
Apple ได้ทดสอบกับเวอร์ชั่น 5.0.1 สำหรับนักพัฒนา ไปถึงแค่ Beta 2 ตอนนี่ Apple ก็ได้ปล่อย
เวอร์ชั่น 5.0.1 ตัวเต็มออกมาแล้วครับ
Software Update ของ iOS เวอร์ชั่น 5.0.1 มีรายละเอียดดังนี้
• แก้ไขปัญหาที่ส่งผลต่อระยะเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่
• เพิ่มลักษณะท่าทาง Multitasking สำหรับ iPad 1
• แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเอกสารใน iCloud
• ปรับปรุงเสียงพูดสำหรับชาวออสเตรเลียที่ใช้การป้อนตามคำบอก
เครื่องที่เใช้ได้กับ software update มีดังนี้
• iPhone 4S
• iPhone 4
• iPhone 3GS
• iPad 2
• iPad
• iPod touch 4
• iPod touch 3
คำเตือนสำหรับคนที่จะเจลเบรค ยังยากเจลแบบ Untethered
อย่าเพิ่งอัพ iOS 5.01 นะครับ
iOS 5.0.1โหลดได้จากตรงนี้ครับ (build number 9A405)
เวอร์ชั่น 5.0.1 ตัวเต็มออกมาแล้วครับ
Software Update ของ iOS เวอร์ชั่น 5.0.1 มีรายละเอียดดังนี้
• แก้ไขปัญหาที่ส่งผลต่อระยะเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่
• เพิ่มลักษณะท่าทาง Multitasking สำหรับ iPad 1
• แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเอกสารใน iCloud
• ปรับปรุงเสียงพูดสำหรับชาวออสเตรเลียที่ใช้การป้อนตามคำบอก
เครื่องที่เใช้ได้กับ software update มีดังนี้
• iPhone 4S
• iPhone 4
• iPhone 3GS
• iPad 2
• iPad
• iPod touch 4
• iPod touch 3
คำเตือนสำหรับคนที่จะเจลเบรค ยังยากเจลแบบ Untethered
อย่าเพิ่งอัพ iOS 5.01 นะครับ
iOS 5.0.1โหลดได้จากตรงนี้ครับ (build number 9A405)
10 Applications ที่ควรทำงานร่วมกับ Siri ในอนาคต
APPLE เปิดตัว iPhone 4s อย่างเป็นทางการพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด "SIRI" โดยทาง APPLE ได้ร่วมงานกับบริษัทนักพัฒนาอย่าง Wolfram Alpha และ Yelp ทำให้ "SIRI" เป็นเทคโนโลยีสั่งการควบคุมด้วยเสียงและตอบรับอัจฉริยะที่น่าสนใจสำหรับผู้ ใช้งาน iPhone 4s
แต่หนึ่งในคุณสมบัติที่ขาดหายไปจาก "SIRI" คือการทำงานร่วมกับ Application บน iOS โดยทาง APPLE ก็ยังไม่ได้ยืนยันที่จะนำ Application มาทำงานร่วมกับ "SIRI" แต่อย่างใด ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวม 10 Applications ที่ต้องการให้ "SIRI" ทำงานร่วมกันในอนาคตอันใกล้นี้
1. Facebook
ปฎิเสธไม่ได้เลยสำหรับใครหลายๆคนที่จะหวังให้ SIRI ทำงานร่วมกับ facebook แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง APPLE กับ Mark Zuckerberg
2. Twitter
มันแปลกที่ twitter ไม่สามารถทำงานร่วมกับ SIRI ได้ ทั้งๆที่ iOS 5 สามารถ tweet จากฟังก์ชั่นในเมนู Setting ได้
3. Amazon
คุณจะสามารถเรียกดูและสั่งซื้อสินค้าผ่าน SIRI โดยจะทำธุรกรรมและส่งใบเสร็จรับเงินผ่าน อีเมล์ ในเวลาที่รวดเร็ว
4. Pandora
คุณอาจจะพูด “Play my Coldplay station” กับ SIRI มันจะเข้าถึง Pandora และเริ่มเล่นเพลงในคลังเพลงของคุณโดยทันที
5. Wikipedia
Wolfram Alpha สามารถตอบคำถามหลายคำถามได้ดี แต่มี search engine ที่ตอบได้ดีกว่า คือ Wikipedia ที่บอกทุกอย่าง
ที่คุณอยากรู้ !!!
6. Netflix
เพียงแค่คุณพูด “Play the first thing in my instant queue” กับ SIRI มันจะเล่น streaming ผ่าน Netflix ให้คุณโดยทันที
7. IMDb
คุณแค่ถาม “What movie did Will Smith play in with Jeff Goldblum in 1996?” “Who is the lead in the upcoming Snow White movie?” กับ SIRI มันจะแสดงให้คุณเห็นข้อมูลที่คุณอยากรู้ และยังสามารถใช้ IMDb ในการดึง trailers ภาพยนต์ใหม่ที่คุณชื่นชอบได้อีกด้วย
8. Fandango
การทำงานร่วมกันระหว่าง SIRI กับ Fandango จะช่วยให้คุณรู้เวลาฉายภาพยนต์และสั่งซื้อตั๋วแค่เพียงคุณใช้เสียงของคุณ
“Find the nearest showings for Immortals tonight” “Buy me tickets for the 7:30 sh0w” แค่เพียงเท่านี้คุณจะไม่พลาด
ภาพยนต์โปรดของคุณอีกต่อไป
9. Yahoo Sports
engine อย่าง Yahoo และ Google ที่ทำงานร่วมกับ SIRI คุณสามารถดูผลการแข่งขันกีฬา ข้อมูลเกี่ยวกับทีม ไฮไลท์การแข่งขัน คะแนนตารางการแข่งขัน ทั้งก่อนการแข่งขันและจบการแข่งขัน คุณจะไม่พลาดทีมโปรดของคุณแม้สักนาที ทีเดียว
10. CNN
แค่คุณพูดว่า “Show me the latest headlines” “What’s the latest news in tech?” การทำงานร่วมกันระหว่าง SIRI กับ CNN ก็จะนำเสนอการพาดหัวข่าวและเรื่องราวที่คุณสนใจล่าสุด
APPLE ยังคงมีหลาย Applications ที่จะต้องทำงานร่วมกับ SIRI เช่น กล้อง iTunes และ App Store ทั้งนี้ SIRI ยังถือว่าเป็น รุ่น Beta อยู่ เราจึงไม่สามารถคาดหวังว่า SIRI จะทำทุกอย่างที่เราต้องการได้ แต่ก็น่าแปลกใจที่ APPLE ไม่นำ Applications ที่มีอยู่ในตัวมาทำงานร่วมกันกับ SIRI
Why can’t you search the App Store with your voice?
Why can’t you look up a song in iTunes with Siri?
ซึ่งเราก็หวังว่าในอนาคตอันใกล้ SIRI จะสามารถทำงานร่วมกับ Application ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
ข้อสรุป
10 Applications ที่กล่าวข้างต้น คนไทยส่วนหนึ่งอาจจะไม่คุ้นเคยซักเท่าไร (รวมถึงผมด้วย) แต่ก็มี Application บางตัวที่มี
คุณลักษณะที่ใกล้เคียงกัน ผมก็ได้แต่หวังว่า เมื่อฝรั่งทำได้ ทำไมคนไทยจะทำไม่ได้ เช่นกัน
แล้วเพื่อนๆล่ะครับ มี Application ตัวไหนที่อยากให้ SIRI ทำงานร่วมกันได้ ?
อ้างอิง: บทความดังกล่าว คัดลอกจาก cultofmac.com
set ให้ php ติดต่อ ฐานข้อมูล mssql
กรณีที่ server เป็น MS windows
1.ติดตั้ง php ให้เรียบร้อย
2.เปิด file php.ini แล้ว เอาเครื่องหมาย ";" หน้า ;extension=php_mssql.dll ออก กลายเป็น extension=php_mssql.dll
3.ติดตั้ง MS SQL Client Tools ซึ่งมีอยู่ใน CD ของ MS SQL
4. ตรวจดู ไฟล์ ntwdblib.dll ว่า มีอยู่ใน foder ของ php แล้วหรือไม่ ถ้ายังไม่มีก็ copy จาก แผ่น mssql มาได้
หมายเหตุ
*****ควรใช้การตั้ง php แบบ zip
***** ติดตั้ง mssql หลัง จากการติดตั้ง php
Thursday, November 10, 2011
วิธีการ Reset Password MSSQL
1 : การใช้ MS SQL Server Unlocker Password เพื่อเปลี่ยนรหัสผ่าน SA
มากที่สุดตรงที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วเพื่อรีเซ็ตรหัสผ่าน SA จะนำการใช้ประโยชน์ส่วนที่สาม -- MS SQL Server Password Unlocker เพียงสองขั้นตอน
ขั้นที่ 1 : การเข้าถึง master.mdf file ซึ่งเป็นค่าเริ่มต้นที่ C : \ Program Files \ Microsoft SQL Server \ MSSQL master.mdf \ Data \
ขั้นที่ 2 : เลือกรหัสผ่านและรหัสผ่าน SA SA reset
เพื่อความสำเร็จเปลี่ยนรหัสผ่าน SA!
2 : เปลี่ยนรหัสผ่าน SA กับอื่น SQL Server Login
ถ้ามีอื่น ๆ SQL Server Login ที่เป็นสมาชิกของบทบาทดูแลระบบคุณสามารถเข้าสู่ระบบโดยใช้บัญชีและรหัสผ่าน ที่ตั้ง SA ของ SQL Server เปลี่ยนรหัสผ่าน SA บัญชีอธิบาย here :
SERVER SQL -- เปลี่ยนรหัสผ่านของระบบการจัดการการใช้ SA Studio
Login เข้า SQL Server โดยใช้ Windows Authentication
ใน Object Explorer, Security โฟลเดอร์เปิดการเข้าสู่ระบบเปิดโฟลเดอร์ คลิกขวา SA บัญชีและไปที่ Properties
เปลี่ยนรหัสผ่าน SA และยืนยัน คลิก OK
ให้แน่ใจว่าจะเริ่ม SQL Server และบริการและทดสอบรหัสผ่านใหม่โดยเข้าสู่ระบบเข้าสู่ระบบ SA ใช้และรหัสผ่านใหม่
ตัวเลือก 3 : SA Reset Password Windows Login กับที่เป็นสมาชิกของ Windows Admin Group
ถ้ามีอื่น ๆ เข้าสู่ระบบ Windows ที่เป็นสมาชิกของ Windows Admin Group, เข้าสู่ระบบโดยใช้บัญชีที่ Start SQL Server ใน Single User Mode ที่อธิบายดังต่อไปนี้ :
SQL SERVER -- Start Instance SQL Server ในโหมด Single User
มีสถานการณ์บางอย่างเมื่อผู้ต้องการเริ่มต้น SQL Server Engine ในผู้ใช้คนเดียว""โหมดจากเริ่มมี
เพื่อเริ่ม SQL Server ในโหมดผู้ใช้เป็นวิธีการเดียวที่ง่ายมากตามที่แสดงด้านล่าง
ไปที่ SQL Server Configuration Manager และคลิกที่ SQL Server 2005 Services คลิกที่ต้องการเช่น SQL Server และคลิกขวาไปทาง ในตาราง Advance เข้าพระราม'm -;'ก่อน params ที่มีอยู่ในกล่อง Startup Parameters
ให้แน่ใจว่าคุณป้อนจุลภาคกึ่ง m หลัง หลังจากที่เสร็จสิ้นเริ่มบริการ Server SQL ที่จะใช้ในลักษณะนี้ ครั้งนี้จะทำตอนนี้คุณจะสามารถเชื่อมต่อเฉพาะ SQL Server ใช้ sqlcmd
ให้แน่ใจว่าจะลบใหม่เพิ่ม params การปฏิบัติงานหลังจากเสร็จสิ้นเริ่มต้นใหม่ได้ในโหมดผู้ใช้หลาย
สร้างระบบใหม่และให้มันดูแลระบบอนุญาต
ที่มา (http://blog.passwordunlocker.com/how-to-change-sa-password-or-other-ms-sql-server-passwords/)
Friday, November 4, 2011
อัพเดท iOS 5 เวอร์ชันใหม่แก้ปัญหาแบตเตอรี่หมดไวใน iPhone 4S
เตรียมอัพเดท iOS 5 เวอร์ชันใหม่แก้ปัญหาแบตเตอรี่หมดไวใน iPhone 4S!
ดู เหมือนว่าปัญหาแบตเตอรี่หมดไวใน iPhone 4S ที่กลายเป็นประเด็นให้พูดถึงกันในหมู่ผู้ใช้งาน iPhone 4S ช่วงนี้กำลังจะได้รับการแก้ไขในอีกไม่นานนี้ เมื่อล่าสุดทางด้านของ Apple ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาพบต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้นจากบั๊กบางส่วนในระบบ ปฏิบัติการ iOS 5 แล้ว และเตรียมที่จะปล่อย iOS 5 เวอร์ชันใหม่ออกมาในเร็วๆนี้เพื่อให้ผู้ใช้งาน iPhone 4S นำไปอัพเดทในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้
โดยทางด้านของ Apple ได้แจกจ่ายตัวอัพเดทระบบปฏิบัติการ iOS 5.0.1 build 9a402 เวอร์ชันใหม่ที่ว่านี้ไปให้กับเหล่านักพัฒนาทั้งหลายได้ทดสอบการใช้งานกัน แล้ว ซึ่งนอกเหนือจากจะแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่หมดไวใน iPhone 4S แล้วก็ยังจะเพิ่มการอัพเกรดคุณสมบัติบางประการให้กับ iPod Touch และ iPad อีกด้วยตามรายละเอียดด้านล่างนี้ครับ
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้เกิดปัญหาแบตเตอรี่หมดไว
- เพิ่มคุณสมบัติ Multitasking Gestures ให้กับ iPad
- แก้ไขบั๊กใน Documents in the Cloud
- เพิ่มระบบสั่งการด้วยเสียงในสำเนียงของผู้ใช้งานชาวออสเตรเลีย
- ปรับปรุงระบบความปลอดภัยในเครื่องให้ดียิ่งขึ้น
บทความโดย: ekk TechXcite
ที่มา: allthingsd
ดู เหมือนว่าปัญหาแบตเตอรี่หมดไวใน iPhone 4S ที่กลายเป็นประเด็นให้พูดถึงกันในหมู่ผู้ใช้งาน iPhone 4S ช่วงนี้กำลังจะได้รับการแก้ไขในอีกไม่นานนี้ เมื่อล่าสุดทางด้านของ Apple ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาพบต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้นจากบั๊กบางส่วนในระบบ ปฏิบัติการ iOS 5 แล้ว และเตรียมที่จะปล่อย iOS 5 เวอร์ชันใหม่ออกมาในเร็วๆนี้เพื่อให้ผู้ใช้งาน iPhone 4S นำไปอัพเดทในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้
โดยทางด้านของ Apple ได้แจกจ่ายตัวอัพเดทระบบปฏิบัติการ iOS 5.0.1 build 9a402 เวอร์ชันใหม่ที่ว่านี้ไปให้กับเหล่านักพัฒนาทั้งหลายได้ทดสอบการใช้งานกัน แล้ว ซึ่งนอกเหนือจากจะแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่หมดไวใน iPhone 4S แล้วก็ยังจะเพิ่มการอัพเกรดคุณสมบัติบางประการให้กับ iPod Touch และ iPad อีกด้วยตามรายละเอียดด้านล่างนี้ครับ
- เพิ่มคุณสมบัติ Multitasking Gestures ให้กับ iPad
- แก้ไขบั๊กใน Documents in the Cloud
- เพิ่มระบบสั่งการด้วยเสียงในสำเนียงของผู้ใช้งานชาวออสเตรเลีย
- ปรับปรุงระบบความปลอดภัยในเครื่องให้ดียิ่งขึ้น
บทความโดย: ekk TechXcite
ที่มา: allthingsd
การติดตั้ง phpMyAdmin
phpMyAdmin เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาด้วย PHP ที่ใช้จัดการ MySQL ผ่าน Web Browser โดยสามารถจัดการ MySQL Database เกือบทุกอย่าง เช่นการ Create Database/Table/Field เพิ่ม/ลบ/แก้ไข ข้อมูลหรือโครงสร้างได้
ก่อนอื่นก็ให้ Unzip ไฟล์ phpMyAdmin ที่ดาวน์โหลดมาออกมาก่อนนะครับ
เอาไปไว้ที่ C:\WWWServer\ แล้วเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์เป็น phpMyAdmin (จะใช้ชื่ออื่นก็ได้)
เปิดไฟล์ httpd.conf ของ Apache ขึ้นทำการเพิ่มค่าตามรูป ผมไม่ขออธิบายคำสั่งนะครับ เอาเป็นว่า IP ที่จะเข้า phpMyAdmin ได้ ก็คือ 127.0.0.1 หรือ localhost นั่นเอง นอกนั้นหมดสิทธิ์ครับ บันทึกแล้วปิดไฟล์ออกไป
เข้าไปที่ C:\WWWServer\phpMyAdmin ค้นหาไฟล์ config.inc.php
ใช้ Text Editer ตัวไหนก็ได้ เปิดไฟล์ config.inc.php ขึ้นมา ค้นหาบรรทัดที่เขียนว่า $cfg['PmaAbsoluteUri'] = '';
แกัไขเป็น $cfg['PmaAbsoluteUri'] = 'http://localhost/phpMyAdmin';
บรรทัด $cfg['Servers'][$i]['host'] = 'localhost';
บรรทัด $cfg['Servers'][$i]['user'] = 'root';
บรรทัด $cfg['Servers'][$i]['password'] = '12345';
บันทึกแล้วปิดไฟล์ออกไป
เปิด IE ขึ้นมา แล้วพิมพ์ http://localhost/phpMyAdmin ที่ช่อง Address กด Enter จะได้หน้าตาเว็บตามรูปข้างล่าง
ที่ช่องฐานข้อมูล คลิกลงมาดู จะมีฐานข้อมูลอยู่ 2 อัน คือ mysql กับ test
ทดลองสร้างฐานข้อมูลขึ้นมาใหม่ ที่ช่อง MySQL ให้พิมพ์ phpnuke แล้วคลิกที่ปุ่ม สร้าง
จะได้ฐานข้อมูลใหม่ขึ้นมาอีกตัวชื่อ phpnuke ซึ่งจะเอาไว้ติดตั้ง PHP-Nuke ในหัวข้อต่อไป
ก่อนอื่นก็ให้ Unzip ไฟล์ phpMyAdmin ที่ดาวน์โหลดมาออกมาก่อนนะครับ
เอาไปไว้ที่ C:\WWWServer\ แล้วเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์เป็น phpMyAdmin (จะใช้ชื่ออื่นก็ได้)
เปิดไฟล์ httpd.conf ของ Apache ขึ้นทำการเพิ่มค่าตามรูป ผมไม่ขออธิบายคำสั่งนะครับ เอาเป็นว่า IP ที่จะเข้า phpMyAdmin ได้ ก็คือ 127.0.0.1 หรือ localhost นั่นเอง นอกนั้นหมดสิทธิ์ครับ บันทึกแล้วปิดไฟล์ออกไป
เข้าไปที่ C:\WWWServer\phpMyAdmin ค้นหาไฟล์ config.inc.php
ใช้ Text Editer ตัวไหนก็ได้ เปิดไฟล์ config.inc.php ขึ้นมา ค้นหาบรรทัดที่เขียนว่า $cfg['PmaAbsoluteUri'] = '';
แกัไขเป็น $cfg['PmaAbsoluteUri'] = 'http://localhost/phpMyAdmin';
บรรทัด $cfg['Servers'][$i]['host'] = 'localhost';
บรรทัด $cfg['Servers'][$i]['user'] = 'root';
บรรทัด $cfg['Servers'][$i]['password'] = '12345';
บันทึกแล้วปิดไฟล์ออกไป
เปิด IE ขึ้นมา แล้วพิมพ์ http://localhost/phpMyAdmin ที่ช่อง Address กด Enter จะได้หน้าตาเว็บตามรูปข้างล่าง
ที่ช่องฐานข้อมูล คลิกลงมาดู จะมีฐานข้อมูลอยู่ 2 อัน คือ mysql กับ test
ทดลองสร้างฐานข้อมูลขึ้นมาใหม่ ที่ช่อง MySQL ให้พิมพ์ phpnuke แล้วคลิกที่ปุ่ม สร้าง
จะได้ฐานข้อมูลใหม่ขึ้นมาอีกตัวชื่อ phpnuke ซึ่งจะเอาไว้ติดตั้ง PHP-Nuke ในหัวข้อต่อไป
การติดตั้ง MySQL
MySQL เป็น ที่นิยมใช้กัน มากสำหรับเป็นฐานข้อมูลเว็บไซท์ ยังสามารถใช้ร่วมกับภาษาโปรแกรม PHP, ASP และภาษาโปรแกรมอื่นๆ ที่สามารถใช้ได้ จะเป็นที่รู้กันดีครับว่า เรานิยมนำมาใช้งานร่วมกับ ภาษาโปรแกรม PHP จะเห็นได้จากหนังสือคู่มือคอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่ออกจำหน่ายให้เห็นกันตามท้องตลาด ที่จะสอนการใช้งาน PHP และ MySQL ควบคู่ด้วยกันไปครับ
หลังจากดาวน์โหลดมาแล้ว ให้ทำการ Unzip ไฟล์ออกมา แล้วทำการติดตั้งโดยดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ SETUP.EXE
พอเข้ามาที่หน้านี้ ก็ให้คลิก Next ไปยังขั้นตอนต่อไป
ตรงนี้ให้เลือก Browse เพื่อจะกำหนด Folder ใหม่
ให้ใส่ C:\WWWServer\MySQL ลงไปที่ช่อง Path และคลิก OK
คลิก Yes เพื่อสร้าง Folder ใหม่
ตรงนี้ก็คลิก Next ไปยังยังขั้นตอนต่อไป
ข้อนี้ให้เลือก Typical แล้วคลิก Next ต่อไป
ตัวโปรแกรมกำลังถูกติดตั้งลง Harddisk ให้รอสักครู่
ถึงขั้นตอนนี้ ก็คลิก Finish เสร็จสิ้นการติดตั้งไฟล์ลง Harddisk
จากนั้นก็ให้ใช้ Windows Explorer เปิดเข้าไปยัง C:\WWWServer\MySQLbin ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ winmysqladmin.exe
ที่ช่อง User Name ให้ใส่ root และช่อง Password ใส่ค่าอะไรก็ได้ หรือถ้าจะทำตามตัวอย่างก็ 12345 แล้วคลิก OK
ที่ System Tray จะมี Icon ของ MySQL เป็นรูปไฟจราจรโผล่ขึ้นมาและเป็นสีเขียว แสดงว่าทำงานถูกต้องแล้ว
ต่อไปก็จะเป็นการกำหนดสิทธิต่างๆของ User ให้กับ MySQL ไปที่ Start >> Run พิมพ์ cmd คลิก OK
พอเข้ามาที่หน้าต่าง Command Prompt ให้พิมพ์ cd\ กด Enter เพื่อออกไปที่ C:\>
ต่อไปให้พิมพ์ C:\>cd WWWServer\MySQL\bin กด Enter เพื่อเข้าไปที่ Directory C:\WWWServer\MySQL\bin> ตามรูป
พอเข้ามาที่ C:\WWWServer\MySQL\bin> ให้พิมพ์ mysql -u root -p ต่อท้ายไปเลย แล้วเคาะแป้น Enter มันจะถามหา Password ไม่ต้องใส่อะไรครับ ให้เคาะแป้น Enter ผ่านไป เนื่องจาก User root ยังไม่มี Password แล้วมันจะเข้าไปที่ mysql>
ดังรูปข้างล่าง
ต่อไปก็มากำหนดสิทธิ์และ Password ของ User root โดยจะใช้คำสั่ง GRANT เพราะง่ายและรวดเร็วดี (ลองๆไปอ่านคู่มือ MySQL ดูกันเอาเองนะครับ)
ตรง mysql> ให้พิมพ์ GRANT USAGE ON *.* TO root@localhost IDENTIFIED BY '12345'; กดแป้น Enter (ค่า 12345 คือ Password ที่กำหนดขึ้นมาใหม่นะครับ) จะได้ข้อความตามรูปข้างล่าง ถือว่าผ่านครับ (จะใช้ GRANT กับ User อื่นนอกจาก root ก็ได้นะครับ)
จากนั้นให้ออกจาก mysql> โดยพิมพ์ exit กด Enter จะออกไปที่ C:\WWWServer\MySQL\bin>
ทีนี้ให้เข้าไปที่ MySQL ใหม่ โดยพิมพ์ mysql -u root -p กด Enter ใส่ Password 12345 กด Enter ถ้าเข้าได้ตามรูปข้างล่างก็คือผ่านครับ
ให้ทดลองพิมพ์ status กด Enter เพื่อดู Status การทำงาน จากนั้นก็ให้ Exit ออกไปจาก MySQL
เปิดไฟล์ C:\WINDOWS\my.ini ด้วย Notepad
เพิ่มคำสั่ง default-character-set=tis620 ต่อท้ายเข้าไป เป็นการกำหนดให้ MySQL สามารถใช้และการเรียงลำดับตัวอักษรของ ภาษาไทยได้ถูกต้อง บันทึกไฟล์ my.ini แล้วรีบูตเครื่องใหม่ เป็นอันเรียบร้อยสำหรับการติดตั้ง MySQL
หลังจากดาวน์โหลดมาแล้ว ให้ทำการ Unzip ไฟล์ออกมา แล้วทำการติดตั้งโดยดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ SETUP.EXE
พอเข้ามาที่หน้านี้ ก็ให้คลิก Next ไปยังขั้นตอนต่อไป
ตรงนี้ให้เลือก Browse เพื่อจะกำหนด Folder ใหม่
ให้ใส่ C:\WWWServer\MySQL ลงไปที่ช่อง Path และคลิก OK
คลิก Yes เพื่อสร้าง Folder ใหม่
ตรงนี้ก็คลิก Next ไปยังยังขั้นตอนต่อไป
ข้อนี้ให้เลือก Typical แล้วคลิก Next ต่อไป
ตัวโปรแกรมกำลังถูกติดตั้งลง Harddisk ให้รอสักครู่
ถึงขั้นตอนนี้ ก็คลิก Finish เสร็จสิ้นการติดตั้งไฟล์ลง Harddisk
จากนั้นก็ให้ใช้ Windows Explorer เปิดเข้าไปยัง C:\WWWServer\MySQLbin ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ winmysqladmin.exe
ที่ช่อง User Name ให้ใส่ root และช่อง Password ใส่ค่าอะไรก็ได้ หรือถ้าจะทำตามตัวอย่างก็ 12345 แล้วคลิก OK
ที่ System Tray จะมี Icon ของ MySQL เป็นรูปไฟจราจรโผล่ขึ้นมาและเป็นสีเขียว แสดงว่าทำงานถูกต้องแล้ว
ต่อไปก็จะเป็นการกำหนดสิทธิต่างๆของ User ให้กับ MySQL ไปที่ Start >> Run พิมพ์ cmd คลิก OK
พอเข้ามาที่หน้าต่าง Command Prompt ให้พิมพ์ cd\ กด Enter เพื่อออกไปที่ C:\>
ต่อไปให้พิมพ์ C:\>cd WWWServer\MySQL\bin กด Enter เพื่อเข้าไปที่ Directory C:\WWWServer\MySQL\bin> ตามรูป
พอเข้ามาที่ C:\WWWServer\MySQL\bin> ให้พิมพ์ mysql -u root -p ต่อท้ายไปเลย แล้วเคาะแป้น Enter มันจะถามหา Password ไม่ต้องใส่อะไรครับ ให้เคาะแป้น Enter ผ่านไป เนื่องจาก User root ยังไม่มี Password แล้วมันจะเข้าไปที่ mysql>
ดังรูปข้างล่าง
ต่อไปก็มากำหนดสิทธิ์และ Password ของ User root โดยจะใช้คำสั่ง GRANT เพราะง่ายและรวดเร็วดี (ลองๆไปอ่านคู่มือ MySQL ดูกันเอาเองนะครับ)
ตรง mysql> ให้พิมพ์ GRANT USAGE ON *.* TO root@localhost IDENTIFIED BY '12345'; กดแป้น Enter (ค่า 12345 คือ Password ที่กำหนดขึ้นมาใหม่นะครับ) จะได้ข้อความตามรูปข้างล่าง ถือว่าผ่านครับ (จะใช้ GRANT กับ User อื่นนอกจาก root ก็ได้นะครับ)
จากนั้นให้ออกจาก mysql> โดยพิมพ์ exit กด Enter จะออกไปที่ C:\WWWServer\MySQL\bin>
ทีนี้ให้เข้าไปที่ MySQL ใหม่ โดยพิมพ์ mysql -u root -p กด Enter ใส่ Password 12345 กด Enter ถ้าเข้าได้ตามรูปข้างล่างก็คือผ่านครับ
ให้ทดลองพิมพ์ status กด Enter เพื่อดู Status การทำงาน จากนั้นก็ให้ Exit ออกไปจาก MySQL
เปิดไฟล์ C:\WINDOWS\my.ini ด้วย Notepad
เพิ่มคำสั่ง default-character-set=tis620 ต่อท้ายเข้าไป เป็นการกำหนดให้ MySQL สามารถใช้และการเรียงลำดับตัวอักษรของ ภาษาไทยได้ถูกต้อง บันทึกไฟล์ my.ini แล้วรีบูตเครื่องใหม่ เป็นอันเรียบร้อยสำหรับการติดตั้ง MySQL
Subscribe to:
Posts (Atom)